เมื่อวันจันทร์ ชุมชนธุรกิจของเกาหลีใต้ยกย่องการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดียุน ซุก ยอล กับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ในความสัมพันธ์ทวิภาคี พร้อมแสดงความหวังว่าคิชิดะจะกลับมาเยือนโซลในเร็วๆ นี้

การประชุมสุดยอดซึ่งมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากการประกาศของโซลเกี่ยวกับแผนการแก้ไขปัญหาการชดเชยเหยื่อชาวเกาหลีจากการถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามของญี่ปุ่น ส่งสัญญาณถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แตกร้าวจากปัญหาทางประวัติศาสตร์และปัญหายุ่งยากอื่นๆ อันเนื่องมาจากการปกครองอาณานิคมเกาหลีของญี่ปุ่น คาบสมุทรจาก 2453-45 ทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะเริ่มกระบวนการลบล้างมาตรการทางการค้าที่ตอบโต้กัน ซึ่งรวมถึงการควบคุมการส่งออกวัสดุอุตสาหกรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นซึ่งมีความสำคัญต่อเกาหลีใต้

แต่ผลการประชุมสุดยอดดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มเสรีนิยม

โดยพรรคฝ่ายค้านประณามว่าเป็น “การทูตที่ยอมจำนน” ซึ่งเลือกที่จะมองข้ามอดีต

“การเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดี Yoon Suk Yeol ได้กำหนดจุดเปลี่ยนสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี และเรายินดีที่ได้วางรากฐานสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น” แถลงการณ์ร่วมโดยล็อบบี้ธุรกิจ 6 แห่งอ่าน “การประชุมสุดยอดนี้ถือว่าตรงเวลามาก เนื่องจากจัดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความต้องการความร่วมมือเพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น การแข่งขันเชิงกลยุทธ์ระดับโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น การปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน และการพัฒนาเกาหลีเหนือ ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์” แถลงการณ์ระบุ

แวดวงธุรกิจกล่าวว่าการประชุมสุดยอดจะช่วยขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจาก “อุปสรรคทางการค้าที่ไม่จำเป็น” ได้ถูกขจัดออกไปแล้ว

“เราขอให้รัฐบาลทั้งสองใช้ความพยายามอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันและช่วยขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเราหวังว่านายกรัฐมนตรีคิชิดะจะเดินทางเยือนเกาหลีโดยเร็วที่สุด” รายงานระบุ แถลงการณ์ร่วมกันออกโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งเกาหลี, หอการค้าเกาหลี, สมาคมการค้าระหว่างประเทศของเกาหลี, สหพันธ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งเกาหลี, สหพันธ์วิสาหกิจแห่งเกาหลี และสหพันธ์ตลาดกลางแห่งเกาหลี

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ trademarklicensor.com