ดร.เอนก มอบนโยบายอธิการบดีทั่วประเทศ ประจำปี 2566
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมอธิการบดีทั่วประเทศ ประจำปี 2566 (President Forum 2023) โดยมี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. ผู้บริหารกระทรวง อว. และอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศกว่า 150 แห่งเข้าร่วมในการประชุม ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า มหาวิทยาลัยของ อว. ต้องเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในยุคดิสรัปชั่น และต้องไม่เห็นโลกตามแบบคนทั่วไป ผู้ที่มีปัญญาชนต้องมีความเป็นผู้นำ ต้องใช้ความรู้เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ ซึ่งกว่า 3 ปีที่ผ่านมาหลังการหลอมรวมอุดมศึกษากับวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เข้าด้วยกันจนกลายเป็นกระทรวง อว. เรามีผลงานมากมายไม่ว่าจะเป็น การปฏิรูป ปลดล็อก และพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพื่อพัฒนากำลังคนคุณภาพและสร้างโอกาสให้กับประเทศ ซึ่งจนถึงวันนี้ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของกลุ่มประเทศอาเซียน และล่าสุด อว.ก็กำลังร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในการร่วมสำรวจอวกาศผ่านยานอวกาศฉางเอ๋อ 7 ส่งผลให้ใช้งบประมาณของไทยน้อย แต่ได้ผลงานระดับโลก ส่วนในด้านอุดมศึกษา ก็มีการพัฒนาและปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง มีการแบ่งประเภทมหาวิทยาลัย เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นเลิศในแบบของตนเอง ปลดล็อกเรื่องเกณฑ์มาตรฐานต่าง ๆ พร้อมทลายพรมแดนแห่งการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุด
รมว.อว. กล่าวต่อว่า หลังจากนี้เป้าหมายใหม่ของอุดมศึกษาไทย ต้องสร้างให้การอุดมศึกษาของไทยเป็นแบบอย่างและเป็นต้นแบบให้แก่นานาชาติ (Export higher education)ให้ได้ วึ่งเมื่อก่อนเราหลงกับการเชิดชูผู้ที่เรียนจบต่างประเทศ แล้วแปลความรู้ต่างชาติมาเป็นภาษาไทย แต่บัดนี้เราต้องปรับให้เอาความรู้จุดเด่นและความพิเศษของไทยไปเผยแพร่ให้ต่างชาติได้รับรู้ ต้องส่งเสริมให้คนต่างประเทศมาเรียนในไทยให้มากขึ้น นอกจากนั้น อาจขยายการอุดมศึกษาให้เป็นการศึกษาตลอดชีวิต ให้คนทำงาน ผู้สูงอายุ สามารถมาเรียนมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาการไม่มีนักศึกษาในมหาวิทยาลัยไทยในอนาคต ในขณะที่หน่วยงานให้ทุนก็ต้องช่วยสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อสร้างการโอกาสให้กับการอุดมศึกษาของไทยให้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีโอกาสและมีอนาคต เราต้องเชื่อมั่นและทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2580 เราต้องเป็นกระทรวง อว. ของประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ความก้าวหน้าทางวิชาการด้านการศึกษาของไทยเป็นที่จับตามองของทั้งภายในและต่างประเทศ ชาติมหาอำนาจต่างสนใจและตื่นเต้นกับการปฏิรูปอุดมศึกษาของไทยที่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และต่อจากนี้ทุกมหาวิทยาลัยของ อว. ต้องร่วมมือกันทำให้มหาวิทยาลัยไทยเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เป็นแบบอย่างของมหาวิทยาลัยโลก และใช้แนวทางแบบไทย ๆ เป็นต้นแบบให้กับประชาคมโลกให้ได้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ trademarklicensor.com
